call center : 02-756-0335
hotline : 086-3167436
ของดีของฝากเมื่อมาทัวร์ญี่ปุ่น ฟาร์มโทมิตะ พลาดไม่ได้กับน้ำหอมโทมิตะ ที่หาซื้อได้ที่นี่และยังมีฟาร์มแปลงอื่นๆ ที่ปลูกดอกไม้นานาชนิดให้ท่านได้ชมอีกด้วย
น้ำหอมโทมิตะ ได้รับรางวัลอันดับ 1 ในการประกวดน้ำหอม ซึ่งจัดที่กรุงปารีส ฝรั่งเศสใน พ.ศ. 2533 ปัจจุบันฟาร์มโทมิตะไม่ได้ปลูกเฉพาะลาเวนเดอร์อย่างเดียว ยังมีดอกไม้ชนิดอื่นๆ มากมายหลายชนิด ปลูกเต็มไปหมดทุกพื้นที่ของฟาร์ม แบ่งออกได้เป็น 6 แปลงคือ
1. Hanabito Field แปลงสีสันจัด สดใส สลับสี อยู่ตรงหน้าประตูทางเข้า เป็นดอกป๊อปปี้ หลายหลายพันธุ์ต่างสี ดอกรัสเซลล์ลูปิน (Russell Lupine) เป็นรูปร่างแท่งยาวๆ มีหลายสี ดอกหญ้าโทดแฟล็กซ์ เบ่งบานสวยงามเต็มที่ในเดือนกรกฏาคม
2. Sakiwai Field ปลูกลาเวนเดอร์สายพันธุ์ต่างกัน 4 ชนิดคือ Yotei Hanmoiwa Okamurasaki และ Noushihyzaki ทั่งแปลงเต็มไปด้วยสีม่วงบานสะพรั่งเต็มที่ระหว่างปลายเดือนมิถุนายนถึงต้นเดือนสิงหาคม
3. Spring Field ปลูกป๊อปปี้หลายพันธุ์ได้แก่ โอเรียนเตลป๊อปปี้ไอซ์แลนด์ ป๊อปปี้กุหลาบ และสมุนไพรไซว์ส (Chives) จะเบ่งบานเต็มที่ปลายเดือนพฤษภาคม ถึงกลางเดือนมิถุนายน
4. Autumn Field ปลูกต้นคอสมอส ดอกเสจ และต้นผักเสี้ยนฝรั่ง คลีโอเม่ ภายในช่วงกลางเดือนสิงหาคมถึงเดือนตุลาคม
5. Traditional Lavender Garden ปลูกลาเวนเดอร์ สายพันธุ์ดั้งเดิมของฟาร์มโทมิตะ ตั้งแต่ยุคแรกเริ่ม แปลกตาดี ทั้งเนินเขาเต็มไปด้วยสีม่วงในเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม
6. Irodori Field แปลงดอกไม้สีสายรุ้ง ที่เราเห็นในภาพโฆษณาโดยทั่วไปของฟาร์มแห่งนี้กันคุ้นตา สวยงามที่สุด ถูกถ่ายรูปมากที่สุดกว่าแปลงอื่นๆ ปลูกดอกไม้สารพัดชนิด ทั้งลาเวนดอร์ ป๊อปปี้ คอสมอส ยิซโซ ทานเต็มที่ในเดือนกรกฏาคม
นอกจานี้แปลงดอกไม้ทั้ง 6 แปลงอันงดงามประทับใจแล้ว ฟาร์มโทมิตะยังมีอาคารต่างๆ น่าแวะชมอีกหลายอาคาร ตัวอย่างเช่น
1. Hanabito House เป็นประตูหน้าของฟาร์ม คอยต้อนรับผู้เข้าชมทุกท่าน มี 2 ชั้น ชั้นบนเป็นพิพิธภัณฑ์ลาเวนเดอร์ (Tomita Lavender Museum) มีภาพถ่ายแสดงประวัติความเป็นมาของการก่อตั้งฟาร์มแห่งนี้ ชั้นล่างมีร้ายขายของที่ระลึกจากฟาร์ม น่าสนใจหลากหลายมากชนิด รวมทั้งมีร้านขายกาแฟเครื่องดิ่มด้วย
2. Dried Flower House เป็นอาคารจัดแสดงดอกไม้แห้งที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นชื่อว่า “Picnic in Hokkaido” ตามแนวคิดของนายเลน อัคเคมาเดะ ผู้เชี่ยวชาญในการจัดดอกไม้ชาวฮอลแลนด์ ที่ต้องนำเสนอแนวคิดความคิดที่ว่าชีวิตของมนุษย์อยู่ร่วมกับดอกไม้อย่างกลมกลืนลงตัว
3. Distillery Workshop เป็นอาคารโรงงานสกัดน้ำมันจากดอกลาเวนเดอร์ เพื่อนำไปนำเป็นน้ำหอม ในขั้นตอนต่อไปที่บ้าน Perfume Workshop ภายในอาคารมีความหอมสดชื่น อบอวลไปด้วยกลิ่นของดอกลาเวนเดอร์
4. Perfume Workshop เป็นอาคารที่อยู่ถัดไป มีการสาธิตการทำน้ำหอมจากดอกลาเวนเดอร์ เราสามารถชมได้อย่างใกล้ชิดทุกขั้นตอน น่าสนใจมาก ได้สาระความรู้และยังมีน้ำหอมหลากชนิดจำหน่ายให้กับผู้เข้าชมอีกด้วย
5. Potpourri House อาคารที่ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้มีม้านั่งให้นั่งเล่น ชมวิวทิวทัศน์ของเทือกเขาโทคาชิได้อย่างโรแมนติกประทับใจ มีร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร ไอศกรีม ไว้บริการลูกค้าอย่างเป็นกันเอง
6. Flower House เป็นกลุ่มอาคารร้านขายของที่ระลึก ขายไอศกรีมกลิ่นลาเวนเดอร์รสละมุน หอมหวานอร่อย ขายแตงญี่ปุ่น (เมลอน) ชิ้นละ 250 เยน หวานชื่นใจดี
7. Green House เป็นอาคารเรือนกระจกปรับอุณหภูมิเพื่อให้พอเหมาะกับดอกลาเวนเดอร์ มีไว้ให้ผู้เขาชมได้ตลอดทั้งปี ไม่ต้องกังวล ได้ชมตลอดเวลา ฟาร์มโทมิตะเปิด 08.30-17.30 น. เข้าชมฟรี
เจ้าของฟาร์มใจดีเปิดให้เข้าชมฟรีๆ เพียงแต่ขอให้ทุกคนช่วยกันดูแลรักษาดอกไม้ทุกๆ ต้น ไม่เด็ด ไม่เหยียบย่ำ และช่วยกันรักษาความสะอาด เพราะทางฟาร์มมีรายได้จากการจำหน่ายสินค้าที่ระลึก เครื่องดื่ม และอาหาร มากจนเป็นที่พึงพอใจในทุกๆ ปี
Cr. Photo form www.farm-tomita.co.jp/en/farm