call center : 02-756-0335
hotline : 086-3167436
Cr. Photo from a little sheep
ตำนานบ้านพระแม่มารีมีอยู่ว่า แม่ชีชาวเยอรมันผู้หนึ่ง ชื่อ Anna Katharina Emmerick (พ.ศ.2317-2367) ได้ฝันในคืนวันที่ 29 ธันวาคม 2355 ว่าบริเวณแห่งนี้เคยเป็นที่ประทับในช่วงบั้นปลายชีวิตของพระแม่ ในปัจจุบันเป็นโรงสวด มีรูปบูชาที่มีอำนาจในการรักษาโรค มีไม้เท้าและเฝือกของผู้ที่มาแสวงบุญทิ้งเอาไว้เป็นจำนวนมากเป็นสิ่งยืนยันชาวคริสต์นิกายกรีกออร์โธดอกซ์จำนวนมากมายจะมาชุมนุมกันที่โรงสวดนี้ ในวันที่ 15 สิงหาคมของทุกปี เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งพระแม่มารีเสด็จสู่สวรรค์ (Pangyri)
รวมทั้งพิธีสวดบูชาที่เรียกว่า พานาเกีย (Panaghia) ด้วย สำนักวาติกันถือว่านี่เป็นอารามศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่ง โป๊ปหรือพระสันตะปาปาปอลที่ 6 ได้เสด็จมาเยือนในปี 2510 และพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ โป๊ปองค์ปัจจุบันได้เสด็จมาเยือนวันที่ 29 พฤศจิกายน 2549 แม้แต่ชาวมุสลิมก็ให้ความนับถือมาก เดินทางมาสักการะอยู่เสมอ
Cr. Photo from a little sheep
ด้านหน้าบ้านมีน้ำพุ ซึ่งในปัจจุบันเขาได้ต่อออกมาเป็นก๊อกน้ำ มีอยู่ 3 ก๊อกด้วยกัน มีผู้คนนำแก้วและขวดมารองน้ำศักดิ์สิทธิ์เพื่อดื่มกิน รักษาโรคกันเป็นจำนวนมากทุกวัน ต้องต่อคิวยาวทีเดียว ถัดไปมีกำแพงขอพรมีผู้เจียนคำอธิษฐานในกระดาษ ผ้าเช็ดหน้า ผ้าขนหนูขนาดเล็กผูกเชือกห้อยไว้เต็มไปหมด มีทั้งภาษารัสเซีย โรมาเนีย ญี่ปุ่น เกาหลี และอื่นๆ อีกกว่า 10 ภาษา เพิ่มความเลื่อมใสขึ้นมากแก่ผู้ที่ได้พบเห็น
Cr. Photo form Curiator
ขอเล่าเรื่องมหัศจรรย์จากความฝันของแม่ชีแอนนาผู้นี้ ขณะที่ป่วยหนักเธอได้สวดมนต์ภาวนาบนเตียงอย่างอ่อนเพลียมากจากไข้ขึ้นสูง ทันใดนั้นเกิดแสงสว่างจากเบื้องบนนาดลงมายังร่างของเธอ จากนั้นทั่วทั้งตัวของเธอเต็มไปด้วยเลือดสดๆ ไหลผ่านรอยจุดๆ ที่เกิดขึ้นตามตัว เหมือนรอยตะปูตำบนฝ่ามือและเท้าของพระเยซูตอนที่ถูกไม้กางเขน ขณะเกิดเหตุนี้มีคนหลายคนอยู่ด้วย เป็นพยานต่อเหตุการณ์นี้ได้
แม่ชีแอนนารอดชีวิตจากการป่วยหนักครั้งนั้นมาได้ แล้วได้บันทึกเอาไว้หลังจากที่ผ่านเหตุการณ์มาแล้วเป็นหนังสือเล่มหนึ่ง เล่าถึงความฝันที่เธอเห็นขณะที่หมดสติไป และนำไปสู่การค้นพบ “บ้านของพระแม่มารี” ที่พระองค์ทรงอาศัยอยู่ตราบจนวาระสุดท้ายกับเซนต์จอห์น เธอได้เขียนไว้ว่า ได้เห็นพระแม่มารีและเซนต์จอห์น (หนึ่งในสาวกสำคัญ 12 คนของพระเยซู เดินทางจากเมืองเยรูซาเลมไปยังเมืองเอเฟซุส (เพราะหนีภัยจากโรมันฆ่าฟันชาวคริสต์) เซนต์จอห์นก่ออิฐสร้างบ้านหลังหนึ่งเพื่อเป็นที่พักของพระแม่มารี ตั้งอยู่บนเขาลูกหนึ่งใกล้ๆกับเมืองเอเฟซุส บริเวณใกล้เคียงมีชาวคริสต์ตั้งหลักแหล่งอยู่ในถ้ำและในกระโจม
บ้านที่แอนนาเห็นเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า สุดปลายด้านในเป็นรูปโค้งมีห้องสี่เหลี่ยมอีกห้องหนึ่งติดกัน ด้านในคือห้องนอนของพระแม่มารี ต่อมาไม่นานพระแม่มารีอยากกลับไปยังเยรูซาเลม เซนต์จอห์นและเซนต์ปีเตอร์ได้พาพระองค์ไป เมือ่ถึงเยรูซาเลม พระองค์ป่วยหนักมากจนดูเหมือนจะไม่รอด 2 สาวกสำคัญได้เตรียมหาหลุมฝังศพไว้แล้ว แต่ต้องอัศจรรย์ใจ เมื่อพระองค์ทรงฟื้นจากไข้และต้องการกลับเอเฟซุส หลังจากกลับมาไม่นาน พระแม่มารีก็สิ้นพระชนม์ในเวลาต่อมา ขณะนั้นมีอายุได้ 64 ปี หลุมฝังศพของพระนางอยู่ห่างจากบ้านพักออกไปประมาณ 2 กิโลเมตร
ขณะที่แอนนาเขียนบันทึกนี้ เธอไม่เคยเห็นเยรูซาเลม ไม่เคยไปเอเฟซุสและเป็นเรื่องประหลาดที่ต่อมาร่วม 100 ปี มีคนอ่านบันทึกของเธอแล้วออกเดินทางเพื่อค้นหาบ้านของพระแม่มารีว่ามีจริงอยู่หรือไม่ และได้พบบ่อน้ำธรรมชาติบนเขาที่แห้งแล้งใกล้เอเฟซุส ไม่ไกลกันก็พบบ้านหลังหนึ่งที่มีหลังคาพังลงมา (มีรูปร่างเหมือนในหนังสือของแอนนา) มีร่องรอยเหมือนคนมากราบไหว้สักการะ และพบรูปเคารพของพระแม่มารีอีกด้วย
ท่านที่เคยมาเที่ยวตุรกี อาจจะเคยได้ยินเรื่องเล่ามาบ้าง เราจึงได้รวบรวมเรื่องราวและถ่ายทอดออกมาให้อ่านกันอีกครั้ง