นานาสาระน่ารู้ประเทศพม่า

            1.  มีการย้ายเมืองหลวงบ่อยครั้งถึง 12 ครั้ง ในระยะเวลา 700 ปี สาเหตุหลักที่ทำให้ต้องย้ายเมืองหลวงเฉลี่ยทุก 50-60 ปี  คือการช่วงชิงอำนาจหรือเปลี่ยนราชวงศ์ใหม่ และความเชื่อเรื่องโหราศาสตร์เพื่อชัยภูมิยุทธศาสตร์ที่ดีขึ้น แต่ก็เป็นผลให้งานช่างศิลปกรรมแขนงต่างๆ ไม่ต่อเนื่อง ผลของสงรามเมืองหลวงถูกเผาราบเรียบ หือไม่ก็ถูกรื้อถอนไปสร้างเมืองใหม่ ชาวบ้านรื้อเอาไปใช้ประโยชน์ พระราชวังไม่หลงเหลืออยู่เลย จะต้องไปชมศิลปกรรมในวัดบางแห่งที่เหลืออยู่แทน เมืองหลวงย้ายตามลำดับจากอดีตถึงปัจจุบัน ดังต่อไปนี้

ครั้งที่ 1 สะกาย (สะแคง)

ครั้งที่ 2-3 หงสาวดี (2 ครั้ง)

ครั้งที่ 4-5 ตองอู (2 ครั้ง)

ครั้งที่ 6-7 อังวะ (2ครั้ง)

ครั้งที่ 8 ชเวโบ

ครั้งที่ 9 อมรปุระ (พ.ศ. 2325-2400)

ครั้งที่ 10 มัณฑะเลย์ (พ.ศ. 2400-2428)

ครั้งที่ 11 ย่างกุ้ง (พ.ศ. 2428-2548)

ครั้งที่ 12 เนปิดอว์ (พ.ศ.2549-ปัจจุบัน)

              การย้ายเมืองหลวงครั้งล่าสุด ในเดือนมีนาคม 2549 ต้องใช้งบประมาณมหาศาล ต้องก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานใหม่ทั้งหมด ภูมิประเทศของเนิปดอว์ล้อมรอบด้วยภูเขา สามารถป้องกันข้าศึกรุกรานได้  เป็นการแก้เคล็ดจากความเชื่อเรื่องโหราศาสตร์ หากเมืองหลวงมีชัยภูมิที่ดี รัฐบาลจะไปได้ตลอดรอดฝั่ง และเนปิดอว์ตั้งอยู่กึ่งกลางประเทศ เป็นศูนย์กลางการคมนาคม ที่สามารถเดินทางไปทั่วประเทศได้โดยสะดวก

 

             2.  ยอดเขาที่สูงที่สุดในอาเซียนอยู่ที่นี่เอง  คือยอดเขาข่ากาโบราซี เมืองปูเตา ทางเหนือของรัฐกะฉิ่น อยู่ติดกับทิเบตและยูนนานของจีนสูง 5881 เมตร เหนือระดับน้ำทะเลปานปลาง บริเวณยอดเขาปกคลุมด้วยหิมะตลอดทั้งปี มีธารน้ำแข็งมีพืชและสัตว์มากมายหลายพันธุ์ที่ยังน่าค้นหา เพราะปิดประเทศมานาน เพิ่งถูกพิชิตเมื่อปี 2539 โดยนักไต่เขาชาวญี่ปุ่นชื่อว่า ทากาชิ โอซากิ กับชาวพม่า ชื่อว่า นูมา โจเสน ใช้เวลาไต่เขารวม 30 วัน และได้รับประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติในปี 2541 มีกิจกรรมที่ไม่เหมือนใครคือ นั่งหลังช้างชมธรรมชาติบริเวณที่มีหิมะได้

             3.  เมืองโมกก ใกล้มัณฑะเลย์ เป็นแหล่งอัญมณีที่ดีที่สุดในโลกทั้งทับทิม ทองคำ เพชรตาแมว หยก บุษราคัม เพทาย และไพฑูรย์ ทั้งยังเป็นศูนย์กลางการผลิตอัญมณีของโลก

              4.  ต้นประดู่  ต้นไมประจำชาติของพม่า เป็นสัญลักษณ์แทนความงามและความแข็งแกร่ง ความงาม มาจากดอกสีเหลืองเล็กๆ รวมกันเป็นช่อคล้ายฝักข้าวโพด รอบรับด้วยใบไม้ขนาดเล็ก รูปร่างมนสีเขียวเข้ม งดงามมาก มีกลิ่นหอม นิยมนำมาประดับบนผมของหญิงสาว ลำต้นมีเปลือกสีดำ เนื้อแข็ง เหมาะในการก่อสร้าง และมีคุณค่าเป็นไม้เศรษฐกิจของประเทศ

               5.  พม่าได้อังกฤษเข้ามาเริ่มสำรวจขุดเจาะหาแหล่งน้ำมัน จัดเป็นแหล่งน้ำมันทีเก่าแก่ที่สุดในโลก ปัจจุบันขยายฐานการจุดเจาะหลายแห่ง ทั้งน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติในอ่าวเมาะตะมะ (มะตะบัน) อ่าวเบงกอล และนอกชายฝั่งรัฐยะไข่ (ระไคน์) โดยให้สัมปทานแก่บริษัทเอกชนต่างชาติ ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลพม่าส่งออกไปขายทั้งไทย จีน และอินเดีย ล่าสุดยังมีการค้นพบแหล่งน้ำมันในเขตมาเกว สะกาย(สะแคง) อนาคตคงเป็นแหล่งพลังงานสำคัญแห่งหนี่งของโลก

ขอขอบคุณข้อมูลจาก คุณิจิระรัสมิ์ มนตีมนัส