ประวัติศาสตร์โอกินาว่า

            เกาะหลักญี่ปุ่นและโอกินาว่าต่างมีความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ที่แตกต่างกัน ที่โอกินาว่ามีการดำรงชีพด้วยการล่าสัตว์จนถึงศตวรรษที่ 10 และหลังจากนั้นได้เปลี่ยนไปเป็นสังคมเกษตรกรรม ช่วงศตวรรษที่ 12 มีผู้ชี้นำที่ชื่อ "อะจิ" ได้ทำการแก่งแย่งอำนาจทั่วอาณาจักรในปี 1429 จึงได้มีการรวมอำนาจและเกิดเป็นอาณาจักรริวกิวขึ้น

             ริวกิวได้ส่งเรือไปที่จีน ญี่ปุ่น เกาหลีเหนือ และประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อทำการค้าระหว่างประเทศอย่างจริงจัง ทำให้ประสบผลสำเร็จในการพัฒนาสู่การค้าระหว่างประเทศอย่างจริงจัง ทำให้ประสบผลสำเร็จในการพัฒนาสู่การเป็นชาติทางทะเล ช่วงศตวรรษที่ 15 และ 16 ซึ่งเป็นช่วงที่มีความรุ่่งเรืองผ่านทางการค้าขายกับต่างประเทศนั้น ถูกเรียกว่าเป็นยุคแห่งการค้าขายซึ่งมีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกับยุคแห่งการสำรวจของยุโรปในปี 1609 แคว้นซัทสึมะ (จังหวัดคาโกชิมะในปัจจุบัน) ของญี่ปุ่นได้นำกองทหารบุกริวกิว แต่ริวกิวพ่ายแพ้ทำให้ต้องตกอยู่ภายใต้อำนาจของแคว้นซัทสึมะ ภายหลังจากนั้น ถึงแม้ริวกิวจะตกอยู่ภายใต้การควบคุมของแคว้นซัทสึมะ แต่ริวกิวก็ยังคงความเป็นอาณาจักรเอาไว้และทำการค้าระหว่างประเทศกับจีน และประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่อไป ทำให้เกิดวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ซึ่งเกิดจากการดูดซับและหลอมรวมวัฒนธรรมทั้งของญี่ปุ่นและจีน

            ในปี 1879 อาณาจักรริวกวถูกผนวกเป็นส่วนหนึ่งของญี่ปุ่นโดยสมบูรณ์เนื่องจากข่มขู่ทางกองกำลังทหารของจักรวรรดิญี่ปุ่น และกลายเป็นจังหวัดโอกินาว่าในปัจจุบันด้วย เหตุนี้เองที่ทำให้อาณาจักรริวกิวที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 450 ปี ได้ล่มสลายลงโดยสิ้นเชิง

            ปี 1941 สงครามโลกครั้งที่สองได้เริ่มขึ้น และในปี 1945 ได้เกิดสงครามภาคพื้นดินที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นขึ้นในโอกินาว่า ส่งผลให้เหยื่อสงครามถูกคร่าชีวิตไปเป็นจำนวนมากมหาศาลหลังสงคราม โอกินาว่าถุกตัดขาดจากญี่ปุ่นและตกอยู่ภายใต้การปกครองของกองทัพอเมริกา แต่ในปี 1972 ก็ได้มอบกลับคืนให้ญี่ปุ่นเช่นเดิม ประวัติศาสตร์ที่แตกต่างจากเกาะหลักญี่ปุ่นเช่นนี้ ทำให้เกิดวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ และในปัจจุบันยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวขนาดใหญ่ตัวแทนของญี่ปุ่นในฐานะสถานที่พักตากอากาศเขตร้อนหนึ่งเดียวในญี่ปุ่น มีนักท่องเที่ยวมาทัวร์ญี่ปุ่น เที่ยวญี่ปุ่นจากในและต่างประเทศมาเยือนเป็นจำนวนมาก