call center : 02-756-0335
hotline : 086-3167436
ฟาร์มน้ำแข็ง จิตวิญญาณแห่งศิลปะการทำน้ำแข็งโบราณ
แม้ในเดือนสิงหาคม อากาศบ้านเราจะขมุกขมัว ฝนตกสลับร้อนชื้น ทว่าในประเทศญี่ปุ่นนั้นกลับเข้าสู่ปลายฤดูร้อนแล้วเหมาะสำหรับผู้ที่มาทัวร์ญี่ปุ่นและชื่นชอบความหนาวเย็น อุณภูมิเคยพุ่งสูงถึงระดับ 40 องศา ในเดือนกรกฎาคม ก็ลดลงมาอยู่ในระดับ 30 องศา พออยู่ได้สบายๆกระนั้น ของกินที่สร้างความสดชื่น ด้วยความเย็นผสานรสชาติหวานอมเปรี้ยว และสัมผัสนุ่มละมุนของเกล็ดน้ำแข็งอันบางเบาดุลปุยหิมะ ยังคงได้รับความนิยมอยู่ไม่เสื่อมคลาย นั่นก็คือ น้ำแข็งใสญี่ปุ่น หรือ คากิโงริ ณ ย่านเมืองเก่ายากานะ ในเขตโตเกียว เมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น ผู้คนกว่า 1000 คนยืนต่อแถวรอชิมน้ำแข็งใสซึ่งบางถ้วยอาจมีราคาสูงกว่า 9000เยน หรือ 2600 บาทไทย เป็นหนึ่งในความพรีเมี่ยมและราคาที่สูงนั้นอยู่ที่ น้ำแข็งนั้นเอง ฟาร์มน้ำแข็งในเมืองนิกโก้ จังหวัดโทจิงิ ทางตอนเหนือของกรุงโตเกียว เป็นผู้ผลิตน้ำแข็งธรรมชาติ ระดับพรีเมี่ยม เพื่อป้อนห้างร้านน้ำแข็งใสทั้งเจ้าเล็กเจ้าใหญ่ ในโตเกียว ซึ่งมียอดการสั่งซื้อกว่า 160 ตัน ทว่า ในยุคแห่งเทคโนโลยีระดับอุตสาหกรรมซึ่งการผลิตน้ำแข็งเป็นเรื่องง่ายแค่เดินเครื่อง ไฉนน้ำแข็งธรรมชาติถึงยังสามารถขายได้และอยู่มาจนถึงปัจจุบัน
นายยูอิจิโร ยามาโมโตะ เจ้าของ “ฟาร์มน้ำแข็ง” ซึ่งผลิตน้ำแข็งด้วยกรรมวิธีที่เป็นธรรมชาติแบบโบราณ เข้ารับสืบทอดกิจการนี้เมื่อ 13 ปีที่ผ่านมา ในเวลานั้นฟาร์มน้ำแข็งหลายเจ้าในนิกโก้ทยอยปิดตัวลงเนื่องจากสู้ราคาน้ำแข็งจากโรงงานที่ทั้งผลิตได้เร็วและถูกกว่าไม่ไหว จนมีฟาร์มน้ำแข็งดั้งเดิมเหลืออยู่ไม่ถึง 10 รายทั่วญี่ปุ่น
นายยามาโมโตะเล็งเห็นว่า การปรับภาพลักษณ์น้ำแข็งธรรมชาติให้เป็นงานคราฟต์ระดับไฮ-เอนต์ พร้อมทั้งยกระดับคากิโงริให้เป็นมากกว่าของหวานธรรมดาๆราคาถูก ป็นหนทางที่พลิกฟื้นธุรกิจจากภูมิปัญญาอันเก่าแก่นี้ได้
ดั้งนั้น นายามาโมโตะจึงทำน้ำแข็งใสซึ่งทำจากน้ำแข็งธรรมชาติในฟาร์มของเขา ราดด้วยซอสผลไม้แท้คุณภาพสูง แทนที่จะใช้น้ำเชื่อมกลิ่นผลไม้แบบร้านทั่วไป รสชาติที่มีความพรีเมี่ยมแตกต่างจากท้องตลอด ถูกใจฝ่ายจัดซื้อจากห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่อายุร่วม 400 ปี ชื่อ มิตซุโคชิ ซึ่งมีสาขามากมายทั่วญี่ปุ่นและทั่วโลกเข้าอย่างแรง เปิดพื้นที่ให้น้ำแข็งใสธรรมชาติจากกรรมวิธีโบราณมีที่ยืนในตลาดได้อย่างสง่างามสมภาคภูมิ
กรรมวิธีในการผลิตน้ำแข็งโบราณเริ่มขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ร่วง คนงานในฟาร์มน้ำแข็งต่างเตรียมสระดินก่อนเติมน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติลงไปจนเต็ม จากนั้นเมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว ธรรมชาติจะรังสรรค์ผลงานอย่างค่อยเป็นค่อยไป เมื่ออุณภูมิลดลงจนน้ำบนผิวหน้าสระเริ่มจับตัวกัน ก่อให้เกินชั้นแผ่นน้ำแข็งปกคลุมทั่วบริเวณของสระน้ำ คนงานในฟาร์มจะเริ่มขูดเอาฝุ่นผงและเศษไม้ที่ร่วงติดอยู่ในชั้นนี้ออก อีกทั้งยังต้องค่อยเขี่ยหิมะที่ตกลงมาบนสระน้ำแข็ง เนื่องจากหิมะจะช่วยชะลอการแข็งตัวของน้ำ ทำให้กระบวนการทำน้ำแข็งยาวนามขึ้นกว่าเดิม นายยามาโมโตะกล่าวว่า บางครั้งเขาต้องยืนหนาวเขี่ยหิมะเป็นเวลาถึง 16 ชม.
แต่เดิมการผลิตน้ำแข็งธรรมชาติใช้เวลานานและกินแรง จึงส่งผลให้คากิโงริ เป็นของหวานซึ่งมีเพียงชนชั้นสูงเท่านั้นที่สามารถลิ้มลองรสชาติ โดยสันนิษฐานว่า คากอโงริมีมาตั้งแต่เฮอันของญี่ปุ่น ก่อนได้รับความนิยมแพร่หลายในหมู่สามัญชนคนธรรมดาไม่ถึง 200 ปีมานี้ โดยเป็นผลผลิตจากโรงงานผลิตน้ำแข็งแห่งแรกของประเทศญี่ปุ่น น้ำแข็งธรรมชาติแห่งเมืองนิกโก้ เป็นเครื่องยืนยนว่า ท่ามกลางโลกแห่งเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมที่มีจำนวนมากขึ้น การหาจุดยืนให้งานฝีมือและภูมิปัญญาท้องถิ่นอันล้ำค่าจากอดีตแม้ไม่ง่ายแต่ใช่ว่าจะไร้ความเป็นไปได้ หากคุณได้มาทัวร์ญี่ปุ่น ต้องหาเวลามาลื้มลองน้ำแข็งใสเมืองหนาว ที่นี่ให้ได้สักครั้ง
Cr.ภาพ https://japantoday.com
สนใจโปรแกรมทัวร์ญี่ปุ่นเพิ่มเติม คลิกที่นี่