call center : 02-756-0335
hotline : 086-3167436
เมืองที่่สะพรั่งไปด้วยดอกไม้ 5 สี
ฟุระโนะ เป็นเมืองที่โด่งดังและมีชื่อเสียงในเรื่องของทุ่งดอกไม้ 5 สี ไม่ว่าจะเป็นทุ่งดอกทิวลิป ไอริส กุหลาบ ป๊อปปี้ มัสตาร์ด หรือแม้กระทั่งลาเวนเดอร์ ที่บานสะพรั่งในช่วงเดือนพฤษภาคมขึ้นไป ทั้งนี้เพราะเมืองฟุรโนะถูกห้อมล้อมด้วยขุนเขาไม่ว่าจะเป็นเทือกเขาไดเซ็ทสึ และเทือกเขายูบาริ อีกทั้งสภาพดินแถบนั้นมีแร่ธาตุจากภูเขาไฟ จึงทำให้มีการเกษตรกรรมที่มีผลผลิตหลายอย่าง ทั้งทุ่งอกไม้ องุ่นเพื่อทำไวน์ และอื่นๆ นอกจากนี้ในฤดูหนาวก็เป็นสถานที่เล่นสกีที่มีชื่อเสียงอีกด้วย ทำเลที่ตั้งของเมืองซึ่งลึกเข้าไปในแผ่นดินห่างจากทะเลมาก และอยู่คอ่นข้างจะกลางเกาะพอดี จึงมักพูดกันเล่นๆ ว่า ฟุระโนะเป็น “สะดือ” ของฮอกไกโด มีการจัดเทศกาล Hokkaido Navel เพื่อเฉลิมฉลองสะดือของเกาะนี้กันทุกปี
การเดินทางมา Furano
การเดินทางมาทัวร์ญี่ปุ่นเมืองฟุระโนะสามารถเดินทางด้วยรถไฟจาก Sapporo-Furano ซึ่งมาได้หลายทาง เช่น สาย Sapporo-Asahikawa-Abashiri จนถึงสถานี Takikawa (A21) แล้วเปลี่ยนมานั่งสาย Takikawa-Shintoku จนถึงสถานี Furano (T30) หรือจะต่อรถสาย Asahikawa-Furano ที่เมือง Asahikawa ก็ได้ ซึ่งใช้เวลานานขึ้นอีกเล้กน้อย โดยจะใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 2 ชั่วโมง
Furano Ropeway
ที่อยู่ติดกับ new Furano Prince Hotel คือสถานีรถกระเช้าขึ้นเขา (Furano ropeway) ซึ่งจะพาคุณไปยังยอดเขาข้างบนได้ภายในไม่กี่นาที จากยอเขาคุณจะเห็นทิวทัศน์ตัวเมืองฟุระโนะได้ทั้งหมด ในหน้าหนาวจะได้สัมผัสกับความงามของลานหิมะ และลานสกีในหน้านี้จะมีคนใช้บริการรถกระเช้ามาก เพราะมีคนมาเล่นสกีกันมากนั่นเอง ส่วนบนยอดเขาจะมีร้านกาแฟเล็กๆ ให้นั่งชิลๆได้ สำหรับในหน้าร้อน ร้านกาแฟก็อาจไม่เปิดบริการ
Tomita Farm ฟาร์มโทมิตะ
ฟาร์มชื่อดังแห่งเมืองนากาฟุระโนะ (Naka Furano) ตั้งอยู่ที่ Hokusei Nakafuano-cho ซึ่งอยู่ทางเหนือของฟุระโนะ มีผู้คนไปเยี่ยนเยือนมากมายในช่วงฤดุร้อนของทุกปี ซึ่งทุ่งดอกลาเวนเดอร์กำลังบานสะพรั่งเป็นสีม่วง ทุ่งดอกไม้ห้าสี iodori ก็แข่งกันคาดสีเนินเขาเป็นแถบสายรุ้ง นอกจากทุ่งดอกไม้แล้ว ฟารืมโทมิตะยังมีโรงงานเล็กๆ สาธิตกระบวนการเอาดอกลาเวนเดอร์มาสกัดเป็นหัวน้ำหอม และมีการนำไปแต่งกลิ่นอาหาร เช่น ไอศกรีมลาเวนเดอร์ (ต้องลอง) หรือจะนำดอกไม้สารพัดอย่างไปทำดอกไม้แห้งประดับบ้าน หรือทำเป็นของที่ระลึกต่างๆ ให้ซื้อหาไปฝากใครๆ ได้ นอกจากนั้นยังมีอาหารที่น่าลองชิมอีกหลายอย่างเช่น พุดดิ้งบรรจุขวด ผลเมล่อนสดๆ สีส้ม ทองอร่าม (แยกขายเป็นชิ้นๆ มาคนเดียวก็ลองชิมได้) และอื่นๆ อีกมากมาย
ฟาร์มนี้มีขนาดไม่ใหญ่นัก โดยเฉพาะส่วนที่เปิดให้นักท่องเที่ยวชม คนจึงค่อนช้างแน่นตลอดวัน เพราะอยู่ติดทางรถไฟ เฉพาะในหน้าร้อนจึงมีการหยุดรถไฟเพิ่มที่สถานีชั่วคราว Lavender Farm ซึ่งอยู่หน้าฟาร์มโทมิตะพอดี นอกจากนี้ยังมีชบวนรถไฟ Norokko ที่มีหัวรถจักรสีเขียว-ม่วงสดใส ส่วนตู้โดยสารก็เป็นที่นั่งไม้แบบโบราณในรถยังมีเตาผิงโบราณสำหรับให้ความอบอุ่นแก่ผู้โดยสารในหน้าหนาว ให้บริการอีกด้วย
Highland Furano
เป็นโรงแรมและร้านอาหาร/ร้านขายของที่ระลึก ที่ตั้งอยู่บนเนินของท้องทุ่งลาเวนเดอร์ (ว่ากันว่า) ใหญ่ที่สุดในฟุระโนะ ในฤดูร้อนเนินเขาหน้าโรงแรมจะเต็มไปด้วยลาเวนเดอร์สีม่วงที่หอมหวนกับผีเสื้อมากมายที่มาดูดกินน้ำหวาน และที่สำคัญด้านหน้าของโรงแรมยังมีออนเซ็นให้แช่ชมวิวสวยๆ ด้วย
Furano Cheese Factory
เป็นโรงงานผลิตชีสและผลิตภัณฑ์จากนมที่มีคุณภาพสูงที่นี่ คุณสามารถชมกระบวนการผลิตชีส ลองชิมและเลือกซื้อชีสรสต่างๆ (มีแม้แต่ชีสที่ผสมหมึกของปลาหมึกทำให้สีออกดำคล้ำ) รวมถึงขนมของฝากที่ทำมาจากชีสชนิดต่างๆ นอกจากนี้ยังมีโรงงานไอศครีมและพิซซ่าให้ชมแวะชิมกันได้อีกด้วย หรือจะเข้าร่วมเวิร์คช็อป ทดลองทำชีสด้วยตัวคุณเองก็ได้ (ต้องลองล่วงหน้า)
Ningel Terrace
ตั้งอยู่บริเวณด้านล่างของโรงแรม New Furano Prince Hotel เป็นบริเวณขายสินค้าพื้นเมืองจำพวกงานฝีมือต่างๆ โดยทำเป็นกระท่อมเป็นหลังๆ อยู่บนเนินท่ามกลางป่าไม้ที่ร่มรื่น มีทางเดินไม้กระดานไปถึงกันได้ ภายในร้านจะมีคนมาทำงานฝีมือให้ดูแต่ละชิ้นพร้อมกับขายไปด้วย สถานที่นี้เคยใช้เป็นที่ถ่ายทำภาพยนตร์และซีรีย์ดังของญี่ปุ่นด้วย
Furano Winery
โรงงานทำไวน์ Chateux Furano ตั้งอยู่บนเนินเขาชานเมืองฟุระโนะ ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1972 ด้านในคุณสามารถชมกระบวนการผลิตไวน์ และทดลองชิมไวน์จากองุ่นชั้นดีพันธุ์ต่างๆ และด้วยความที่โรงงานตั้งอยู่บนเนินเขา จึงสามารถมองเห็นทัศนียภาพของเมืองฟุระโนะ ทั้งทุ่งดอกไม้ 5 สี ที่สวยงามและลานสกีได้ชัดอย่างชัดเจนด้วย
Furano Wine House
เป้นร้านอาหารบรรยากาศดี อยู่ใกล้กับโรงงานไวน์ และอยู่บนเนินเขาที่สามารถมองเห็นตัวเมืองฟุระโนะและเทือกเขา Takeshidake เป็นฉากหลังที่งดงาม อาหารที่นี่เป็นสไตล์ฝรั่ง เช่น พาสต้า และอาหารจากหลัก แต่ที่ไม่ควรพลาดคือ ชีสฟองดู และที่ขาดไม่ได้คือ ควรสั่งไวน์ชนิดต่างๆ ของฟุระโนะมาลองชิมด้วย