call center : 02-756-0335
hotline : 086-3167436
ในรัชสมัยรัชกาลที่ 5 พันเอกพิเศษพระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าปฤษฏางค์ (เดิมเป็นหม่อมเจ้าในราชสกุลชุมสาย) ทรงเป็นนักเรียนอังกฤษรุ่นแรก และทูตประจำอังกฤษคนแรก เสด็จไปทรงผนวชเป็นพระภิกษุ ในปี พ.ศ. 2433 นับเป็นพระบรมวงศานุวงศ์ชั้นสูงพระองค์แรก และพระองค์เดียวที่ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุศรีลังกา มีฉายาในสมณเพศว่า “พระชินวรวงศ์” ทรงลาผนวชในสมัยรัชกาลที่ 6 แล้วได้เสด็จกลับเมืองไทย สิ้นพระชนม์ในสมัยรัชกาลที่ 7 คือปี พ.ศ. 2479
ต่อมาพระชินวรวงศ์ได้เป็นสังฆนายกแห่งกรุงโคลัมโบ และเป็นเจ้าอาวาสทิปปทุตรามะในปี พ.ศ. 2448-2453 ชาวศรีลังกาเรียกท่านว่า “เจ้าพระ” ท่านได้จัดตั้งพิพิธภัณฑ์ ห้องสมุด โรงเรียน เด็กชายอนาถาและเด็กหญิงอนาถา ที่ยากไร้ โดยไม่เก็บค่าเล่าเรียนแต่อย่างใด รวมทั้งจัดระเบียนวิธีการสอบของภิกษุสงฆ์ลังกาอีกด้วย
คุณูปการต่างๆ ที่พระองค์เจ้าปฤษฎางค์ หรือ พระชินวงศ์ได้ทรงให้แก่ชนชาวสิงหลนั้นได้รับการยกย่องสรรเสริญอย่างมาก จนถึงกับผู้มีกล่าวว่า “การประทับอยู่ในศรีลังกาของพระองค์ เป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดต่อความก้าวหน้าของพระพุทธศาสนา”
ฉะนั้นจึงถือได้ว่าพระองค์เจ้าปฤษฎางค์มีส่วนช่วยสร้างสัมพันธไมตรีระหว่าง 2 ประเทศ พระองค์ทรงเป็นที่พึ่งของพุทธศาสนิกชนชาวสิงหล ยามขาดผู้อุปถัมภ์หรือู้นำที่มีบุญบารมีพอที่จะค้ำจุนพระพุทธศาสนาให้เจริญก้าวหน้าได้อย่างราบรื่นในยามวิกฤต
อาจกล่าวได้ว่า การที่พระองค์ทรงเป็นขัตติยราชตระกูลชั้นสูง มีการศึกษาอย่างดีเลิศจากมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ เคยมีตำแหน่งเป็นเอกอัครราชทูตในดินแดนตะวันตก มีส่วนทำให้คนอังกฤษซึ่งปกครองศรีลังกาอยู่ในขณะนั้นมีความเกรงใจและให้การสนับสนุนงานของพระองค์ นับเป็นผลดีแก่พุทธศาสนิกชนในศรีลังกา พรองค์จึงเป็นที่รักและเคารพยกย่องของชาวศรีลังกามาจนทุกวันนี้
ปัจจุบันที่วัดทีปปทุตรามะแห่งนี้มีพระสงฆ์ไทยหมุนเวียนมาพักอาศัยเพื่อการศึกษาอยู่บ่อยๆ ข้างๆ วิหารก็มีต้นไม้อนุสรณ์ของบุคคลสำคัญจากไทยได้ปลูกไว้เป็นที่ระลึกอยู่หลายต้น วัดแห่งนี้มีเจ้านายและวัดไทยเสด็จหลายครั้ง เช่น รัชกาลที่ 5 ในปีพ.ศ. 2440 รัชกาลที่ 8,9 และสมเด็จพระพี่นางในปีพ.ศ. 2482 รัชกาลที่ 9และพระราชินี ในปีพ.ศ. 2493 ทรงปลูกต้นไม้ที่วัดนี้และเป็นต้นเดียวในศรีลังกาที่พระองค์ปลูก รัชกาลที่ 10ในปีพ.ศ. 2536 และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ในปี พ.ศ. 2542
อนึ่ง พระสังฆราชอูดูกามะ บุดดาลากิตะ (Udugama Buddharakita) แห่งสำนักอีสกิริยา ทรงให้สัมภาษณ์ว่า ผู้ชายชาวศรีลังกาที่นับถือพุทธศาสนา เมื่อบวชแล้วส่วนหนึ่งจะไม่สึกตลอดชีวิต คือ นิยมบวชตั้งแต่อายุ 10 กว่าปี เป็นการบวชเณรเพื่อเรียนหนังสือ จนกระทั่งบวชเป็นพระภิกษุเมื่ออายุ 20 ปี หากบวชจนถึง 23 ปีแล้วยังไม่สึกก็มักจะบวชต่อไปอีกเรื่อยๆ ตลอดชีวิต
Cr. ข้อมูลจากคุณไพรัตน์ สูงกิจบูลย์