call center : 02-756-0335
hotline : 086-3167436
เมืองแห่งปราสาท บาร็อค และไม้กางเขน
ภูมิทัศน์สถาปัตยกรรมของประเทศลิทัวเนียเป็นการสะท้อนความหลากหลายทางประวัติศาสตร์ ผ่านสิ่งปลูกสร้างที่มีตั้งแต่ปราสาทอันยิ่งใหญ่ไปจนถึงโบสถ์ไม้ที่สงบงามไม่แพ้กัน เช่นเดียวกับประเทศเพื่อนบ้าน เขตเมืองเก่าของ วิลนีอัส (Vilnius) เมืองหลวงของลิทัวเนียเต็มไปด้วยเสน่ห์ของสถาปัตยกรรมยุคกลาง ที่ได้รับการดูแลและอนุรักษ์อย่างดีเยี่ยม
โบสถ์เซนต์แอนน์ (St. Annes Church) ที่มีสีแดงสดและโดดเด่นจากการก่ออิฐอย่างประณีต เป็นตัวอย่างที่งดงามของสถาปัตยกรรมโกธิก
ในขณะเดียวกัน มหาวิหารวิลนีอัส (Vilnius Cathedral) ก็เป็นอีกหนึ่งวัดคริสต์ในสไตล์โกธิกที่มีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ของประเทศ และยังทำหน้าที่เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดเก็บผลงานศิลปะสำคัญจากปลายศตวรรษที่ 14 อีกด้วย
ใกล้กับเขตเมืองเก่าและไปทางตอนเหนือ คุณจะพบกับมหาวิทยาลัยวิลนีอัส (Vilnius University) หนึ่งในมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรปตะวันออก ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1579 มหาวิทยาลัยนี้เป็นคอมเพล็กซ์การศึกษาที่มีความโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างสไตล์โกธิกและบาโรก นอกจากนี้ยังมีโบสถ์เซนต์จอห์น (St. Johns Church) และหอระฆัง (Bell Tower) ซึ่งสามารถขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์อันกว้างไกลของเมืองได้
ห่างจากเขตเมืองเก่าไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 3 ชั่วโมง จะพบกับเมืองเซวเล (Siauliai) ซึ่งเป็นที่ตั้งของเนินไม้กางเขน (Hill of Crosses) ที่มีไม้กางเขนมากกว่า 200,000 อัน จุดเริ่มต้นของพื้นที่นี้เคยเป็นสุสานของกลุ่มต่อต้านจักรวรรดิรัสเซีย โดยในตอนแรกมีไม้กางเขนเพียงไม่กี่อัน แต่เมื่อรัสเซียประกาศว่าลิทัวเนียเป็นกบฏ ไม้กางเขนทั้งหมดที่นี่ถูกทำลาย แต่ไม่ว่าจะถูกกำจัดกี่ครั้ง ไม้กางเขนก็ยังคงปรากฏและเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ เป็นการแสดงออกถึงความมุ่งมั่นและความไม่ยอมแพ้ของชาวลิทัวเนีย ดังนั้น เนินไม้กางเขนจึงเป็นสถานที่ที่ควรค่าแก่การเยี่ยมชมอย่างยิ่ง
เช่นเดียวกับทราไก (Trakai) เมืองหลวงเก่าที่นักเดินทางไม่ควรพลาด ที่นี่เป็นเมืองแห่งปราสาทและทะเลสาบอย่างแท้จริง ด้วยทะเลสาบมากถึง 200 แห่ง และแลนด์มาร์กที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก นั่นคือปราสาททราไก (Trakai Island Castle) ที่ตั้งอยู่บนเกาะกลางทะเลสาบกาล์ฟ (Lake Galves) ปราสาทที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 ด้วยอิฐสีส้มที่โดดเด่น ซึ่งถูกล้อมรอบด้วยสีเขียวขจีของต้นไม้และสีฟ้าเข้มของทะเลสาบ ภายในปราสาทจัดแสดงประวัติความเป็นมาและโบราณวัตถุต่าง ๆ นอกจากความงดงามของธรรมชาติและโบราณสถานอันวิจิตร บ้านเรือนโบราณชั้นเดียวที่มีสีสันสดใส พร้อมห้องใต้หลังคาในสไตล์คาเรม (Karaim) ที่ยังคงสภาพสมบูรณ์ ยังเป็นเอกลักษณ์ที่สร้างความเป็นตัวตนให้กับทราไกได้อย่างดีเยี่ยม
ใครที่สนใจท่องเที่ยวเส้นทางยุโรป Unseen ในอีกซีกโลกที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์อันน่าหลงใหล ทั้งความงดงามคลาสสิกของประวัติศาสตร์เมืองเก่า ความยิ่งใหญ่ของสถาปัตยกรรมโบราณที่ผสมผสานศิลปะบอลติกและรัสเซีย รวมถึงภูมิทัศน์งดงามของทะเลบอลติกที่ธรรมชาติรังสรรค์ไว้ ห้ามพลาด ทัวร์บอลติก คลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้เลยยยย