วัดและศาลเจ้าในโตเกียว

by : Admin Angel_New update : 3

การมาเที่ยวญี่ปุ่น หรือ ทัวร์ญี่ปุ่น สิ่งหนึ่งที่ต้องทราบนั่นคือ ขนบธรรมเนียมประเพณีวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่น ซึ่ง คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่นับถือศาสนาชินโตอันเป็นศาสนาประจำชาติ ดังนั้นสถานที่เคารพและสักการะเทพเจ้ารวมทั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของคนญี่ปุ่นจึงเป็นศาลเจ้า องค์ประกอบของศาลเจ้าแบบญี่ปุ่นนั้นมีดังนี้

เสาโทริอิ (Torii) หรือประตูทางเข้า เป็ยเสมือนดังสัญลักษ์เพื่อเตือนคนที่มาว่ากำลังจะก้าวเข้าสูโลกแห่งธรรม
โกมาอินุ (Komainu) สัตว์คู่คอยเฝ้าประตูทางเข้า
บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ มักพบที่หน้าปากทางเข้าศาลเจ้า เอาไว้ชำระร่างกายและจิตใจ (ล้างมือและบ้วนปาก) ก่อนเข้าศาลเจ้า
ศาลเจ้าหลัก แบ่งออกเป็นที่สวดมนต์และขอพรที่ด้านนอก บางแห่งอาจะเป็นเป็น 2 ตอน
คำอธิฐาน คนที่ญ่ปุ่นมักเขียนคำอธิฐานไว้บนป้ายไม้แล้วนำไปแขวนไว้ที่ศาลเจ้า

1.ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Jingu)

เป็นศาลเจ้าแบบชินโต สร้างขึ้นเมือ ค.ศ.1920 เพื่อเป็นอนุสรณ์ถึงพระจักรพรรดิเมจิและพระมเหสีโชเคน เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นในยุดก่อนสมัยราชวงศ์เมจินั้นได้มีการเปลี่ยนแปลงไปสู่ความสากลมากขึ้น พระองศ์จึงพยายามรักษาไว้ซึ่งวัฒนธรรมอันดีงามในด้านพระพุทธศาสนาและความสงบสุบของประเทศญี่ปุ่น ศาลเจ้าเมจิตั้งอยู่ในเขตป่าของกรุงโตเกียว ซึงไม่ไกลจากย่านช้อปปิ้งฮาราจูกุ และสามารถเข้าชมได้ทุกวันโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

การเดินทางมาศาลเมจิ ทำได้โดยใช้บริการรถไฟ Yamanote แล้วลงที่สถานี Shinjuku หรือใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดินสาย Chiyoda ลงที่สถานี Meijijingu-mae ซึ่งเป็นสถานีรถไฟที่ติดกับสถานี Shinjuku

2.วัดเซนโทจิ หรือ วัดอาสากุสะ (Sensoji หรือ Asakusa Temple)

วัดเซนโซจิ หรือ วันอาซากุสะ เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวโตเกียวในช่วงเทศกาล โดยเฉพาะช่วงเทศกาลปีใหม่ เต็มไปด้วยผู้คนที่มาไหว้ขอพร ตัววัดตั้งอยู่ในย่านอาซากุสะ จึงได้ทำให้เรียกอีกชื่อว่า วัออาซากุสะ และถือว่าเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุในโตเกียว จุดเด่นของวัดเซนโซจิ คือประตูทางเข้าชั้นนอกที่เรียกว่า ประตูคามินาริมอน หรือ ประตูเทพเจ้าสายฟ้า ตรงกลางของประตูจะมีโคมไฟยักษ์สีแดงขนาดใหญ่แขวนอยู่ มีรูปแกะสลักเทพพระเจ้าสายฟ้าและเทพเจ้าสายลม ทำหน้าที่รักษาอยู่สองข้างประตู จากประตูด้านนอกสู่ประตูหลักภายในวัด เป็นถนนทที่มีความยาวประมาณ 200 เมตร เมื่อผ่านประตูหลัก โฮโซมอน เข้ามาจะถึงลานด้านหน้าที่เต็มไปด้วยผู้คน กลางลานจะมีกระถางธุปตั้งอยู่ ข้างกระถางมีที่ล้างมือให้ชำระรางกายให้บริสุทธิ์ก่อนไหว้พระ เมื่อจุดธุปแล้ว คนญี่ปุ่นมักจะเอามือกวักควันธูปเข้าหาตัว ด้วยความเชื่อที่ว่าจะช่วยให้สุขภาพแข็งแรงและมีสติปัญญาที่ดี จากนั้นมุ่งหน้าสู่อารามหลักที่ใหญ่โตและเงียบสงบ ด้านข้างจะมีเจดีย์ 5 ชั้น และศาลเจ้าที่สร้างขึ้นโดยโชกุนโตกุกาว่า อิเอมิทซี วัดเซนโซจิ ตั้งอยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าอาสากุสะ (Ginza and Toei Asakusa Line) เพียงเดิน 5 นาทีเท่านั้น วัดเซนโซจิเปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-17.00 น.ไม่เสียค่าเข้าชม

การเดินทางมาที่วัดเซนโซจิ ทำได้โดยนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินสาย Ginza และสาย Asakusa รวมถึงรถไฟสาย Tobu ลงที่สถานี Asakusa

3.ศาลเจ้ายาสุกุนิ ( Yasukuni Shrine)

ศาลเจ้ายาสุกุนิ ( Yasukuni Shrine) มีความหมายว่า "ความสงบ" เป็นการตั้งชื่อเพื่อให้เกียรติแก่เหล่าทหารที่ได้เสียสละชีวิตในการปกป้องประเทศในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 นอกจากศาลเจ้านี้แล้ว ยังมีพิพิธภัณฑ์ยูซูกัง ( Yushukan War Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์เกียวกับสงครามให้เข้าชมด้วย ศาลเจ้าเปิดให้เยี่ยมชมทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น.ไม่เสียค่าเข้าชม ในส่วนของพิพิธภัณฑ์ให้เข้าชมเวลา 09.00-17.00 น. มีค่าเข้าชม 800 เยน

การเดินทาง สามารถเดินทางได้โดยรถไฟฟ้าใต้ดินสาย Tozai และ Shinjuku ลงที่สถานี Kuadanshita

ข้อควรปฏิบัติในการไปศาลเจ้า

ต้องสงบ สำรวม และใหเกียรติสถานที่นั้นๆ
หากกำลังป่วยหรือร่างกายมีบาลแผล คนญี่ปุ่นมักไม่ไปศาลเจ้า เพราะมีความเชื่อว่าร่างกายไม่บริสุทธิ์
ถ้ามีอ่างน้ำมนต์ที่ด้านหน้า ก่อนเข้าศาลเจ้าต้องชำระร่างกายก่อนด้วยการใช้กระบวยแรกตักน้ำล้างมือทั้งสองข้าง กระบวยที่สองให้ตักน้ำมาบ้วนปาก กระบวยที่สามให้ตักมาล้างหน้า โดยการเทน้ำลงอุ้งมือก่อน
หากต้องการทำบุญ ให้โยนเหรียญลงในรางบริจาค

ดูเพิ่มเติม