call center : 02-756-0335
hotline : 086-3167436
(Manueline Architecture)
สถาปัตยกรรมมานูเอลไลน์ เกิดขึ้นในศตวรรษที่ 15-16 รวมระยะเวลา 88 ปี นิยมกันมากในสมัยพระเจ้ามานูเอลที่ 1 เป็นการนำเอาสถาปัตยกรรมแบบโกธิกมาพัฒนาเพิ่มเติม โดยมีรายละเอียดเน้นไปที่เรื่องหนึ่งโดยเฉพาะ จึงเปรียบเสมือนกับเป็นโกธิกยุคสุดท้ายของโปรตุเกส
กำเนิดของสถาปัตยกรรมนี้มาจากยุคของการค้นพบที่มีการเดินเรือกออกไปสำรวจหาดินแดนแห่งใหม่ ทำให้ได้พบเห็สิ่งแปลกๆ ใหม่ๆ ขณะเดียวกัน ก็ให้ความสำคัญกับพาหนะที่นำออกไปสู่โลกกว้าง รวมทั้งความประทับใจในชีวิตความเป็นอยู่ขณะรอนแรมอยู่ท่ามกลางท้องทะเลกว้าง ทั้งหมดนี้คือ แรงบันดาลใจที่ศิลปินนำมาผสมผสานผูกโยงให้เกิดสถาปัตยกรรมนี้ขึ้นมา
ฉะนั้น สิ่งที่สถาปนิกแสดงออกจึงมาจากการเดินเรือทั้งสิ้น ทำให้สิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเป็นรูปเป็นร่างปรากฏให้เห็นเด่นชัด ซึ่งก็ได้แก่เสากระโดงเรือ โซ่สมอเรือ เชือกที่ควั่นกันเป็นเกลียว คลื่น สาหร่ายทะเล ปะการัง เปลือกหอย พืชผักที่นักเดินเรือใช้บริโภคขณะออกเรือปูมเดินเรือ สัญลักษณ์ของผู้สนับสนุน การเดินเรือ ต้นไม้หรือสัตว์จากแอฟริกา กลีบบัว และลวดลายแบบอินเดีย
ศิลปินดังๆ ที่สร้างผลงานไว้ ได้แก่ ดีโอกู่ ดือ บอยตาก (Diogo de Boitac) และโชเอา ดี กาสติลยุ่ ทั้งคู่นี้ฝากฝลงานไว้ในโบสถ์ซึ่ง ซึ่งเป็นสุดยอดของศิลปะนี้ในลิสบอน ส่วนอีกคู่หนึ่งคือพี่น้องฟรังซิสกู่และดีโอกู่ ดือ อาร์รูด้า ที่สร้างผลงานไว้ ณ หอเบลง
คำว่า มานูเอลไลน์ที่ใช้เรียกชื่อสถาปัตยกรรมนี้เป็นภาษาอังกฤษที่เอามาจากชื่อพระเจ้ามานูเอลนั่นเอง หมายถึงพระเจ้ามานูเอลที่ 1 ที่ทรงให้ความสำคัญกับการเดินทางเรือและทรงให้สร้างโบสถ์และหอที่ใช้สถานปัตยกรรมนี้ ส่วนพระเจ้ามานูเอลที่ 2 ซึ่งเป็นกษัตริย์องค์สุดท้ายของประเทศโปรตุเกสนั้น ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ สำหรับคำว่า “ไลน์” Line หมายถึง แนวทางที่ตามมา
ตั้งแต่รูปแบบสถาปัตยกรรมนี้เกิดขึ้นจนถึงขั้นนิยมกันสุดๆ นั้น ปรากฏว่า ยังไม่มีชื่อเรียกกันอย่างทุกวันนี้ จนเวลาผ่านไปเนิ่นนานถึง 407 ปี คำว่า มานูเอลไลน์ถึงเริ่มมาใช้กัน นั่นก็คือ ศตวรรษที่ 19 แล้ว ผู้ที่คิดค้นคำนี้ขึ้นมา กลับไม่ใช่คนโปรตุเกส แต่เป็นผู้คงแก่เรียนชาวบราซิลที่มีชื่อว่า วานยาเชง (Varnhagen) ซึ่งได้พยายามหาคำมาอธิบายศิลปะรูปแบบนี้แล้วเริ่มเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1840