call center : 02-756-0335
hotline : 086-3167436
ในช่วงหลายปีที่ป่านมาเมื่อเอ่ยถึงชื่อ “ดูไบ” แห่ง “สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์” คนไทยส่วนใหญ่รู้จักและคุ้นกันพอสมควร เหตุผลที่รู้จักไม่ได้สืบเนื่องมาจากเรื่องของการเมืองเพียงอย่างเดียว แต่เพราะอดีตเมืองทะเลทรายแห่งนี้มีความน่าสนใจหลายๆ อย่างในตัวเอง ประกอบกับแนวโน้มการเจริญเติบโตของดูไบในทุกด้านมีความรุดหน้าอย่างรวดเร็ว ภายในระยะเวลาไม่กี่ปี ทำให้คาดการณ์กันว่าในอีกไม่นานนับจากนี้ดูไบจะกลายเป็นอีกหนึ่งความอลังการแห่งดินแดนอาหรับที่เพียบพร้อมไปด้วยนวัตกรรมแห่งเมืองล้ำยุคแน่นอน และที่สำคัญ ทัวร์ดูไบ ก็ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวมากขึ้นตามไปด้วย
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ตั้งอยู่บนทำเลงามๆ ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของคาบสมุทรอาหรับ มี “อาบูดาบี” เป็นเมืองหลวง และมี “ดูไบ” ดำรงสถานะเป็นเมืองใหญ่ที่กำลังถูกกล่าวถึงจากคนทั่วโลก เป็นอีกหนึ่งในตะวันออกกลางที่ร่ำรวยไปด้วยทรัพยากรน้ำมันดิบและแร่ทองคำ มีการถมทะเลเพื่อสร้างแผ่นดินใหม่เพิ่มเข้ามา พร้อมๆ กับการพัฒนาอุตสาหกรรมในประเทศมากมายแยกไปตามรัฐอื่นๆ ซึ่งมีอยู่ 7 รัฐ ในแต่ละรัฐก็จะมีเจ้าผู้ครองรัฐเป็นของตัวเอง โดยยังคงปกครองประเทศแบบสมบูรณาญาสิทธิราช
รัฐทั้ง 7 ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ประกอบด้วย อาบูดาบี ดูไบ อัจมาน ฟูไจราห์ ราชอัลไคมาห์ ชาร์จารห์ และ อุมม์อัลไกไวน์ มีอาณาเขตติดต่อกับประเทศซาอุดิอาระเบีย โอมานและการ์ตา แต่ก่อนแต่ไรทั้ง 7 รัฐนี้ไม่ได้รวมกันเป็นประเทศ แต่ปกครองตัวเองเป็นรัฐอิสระ สำหรับรัฐดูไบนั้นเดิมสันนิษฐานว่ามีที่มาของชื่อจากคำว่า “ดาบา” หมายถึง การคืบคลานเคลื่อนไหว ซึ่งอาจมีที่มาจากไหลของน้ำในคลองสายหลักภายในรัฐ ในพ.ศ. 2376 ชนเผ่าบานียาสราว 800 คนที่นำโดยคนในตระกูล “มัคตูม” ได้อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานอยู่ในบริเวณปากอ่าว เลี้ยงชีพด้วยการทำประมงและฟาร์มหอยมุก ต่อมาก็ขยับขยายจนกลายเป็นท่าเรือใหญ่ ศูนย์กลางการค้า และยิ่งเจริญมากขึ้นตั้งแต่ ศตวรรษที่ 20 เป็นต้นมา
สกุลเงินที่ใช้ในดูไบและทั่วทั้งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คือ เดอร์แฮม เวลาที่ดูไบจะช้ากว่าเมืองไทย 3 ชั่วโมง เรามาชมสถานที่ท่องเที่ยวในดูไบเพื่อทำความรู้จักและเป็นข้อมูลสำหรับการวางแผนท่องเที่ยวในทริปถัดไปของคุณผู้อ่านกันดีกว่า คลองดูไบที่ถูกขุดยาวมาตั้งแต่จากฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือไปถึงฝั่งตะวันตกเฉียงใต้นั้น ด้วยระยะประมาณ 14 กิโลเมตร ทำให้แบ่งดูไบเป็น 2 ฝั่งคือ ฝั่ง เดียรา ดูไบ และฝั่ง เบอร์ ดูไบ
ภาษาท้องถิ่นของชาวอาหรับจะเรียกย่านตลาดเก่าว่า ซุก ย่านเหล่นี้สำหรับนักท่องเที่ยวจะเหมาะสำหรับการเดินเล่นเดินชมเมืองและสินค้านานาชนิดในแต่ละตลาดได้อย่างเพลิดเพลินใจ สถานที่หนึ่งที่ต้องเข้าชมให้ได้เมื่อไปถึงดูไบก็คือ พิพิธภัณฑ์ดูไบ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ใช้เป็นที่เก็บของมีค่าทางประวัติศาสตร์หลายชิ้น บางชิ้นมีอายุเก่าแก่หลายพันปีทีเดียว และส่วนใหญ่ข้าวของเครื่องใช้ที่ถูกเก็บรักษาไว้ที่นี่จะบอกเล่าเรื่องราวของชาวอาหรับโบราณ พิพิธภัณฑ์ดูไบถูกสร้างขึ้นใน พ.ศ. 2342 ก่อนจะได้รับการบูรณะครั้งล่าสุดเมื่อปี พ.ศ. 2513 และพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ในอดีตยังเคยถูกใช้เป็นทั้งพระราชวัง ป้อมปราการและที่คุมขังนักโทษโดยมีกองกำลังทหารเฝ้ารักษาการณ์อยู่
เมื่อมาทัวร์ดูไบอย่าลืมแวะลงริมชายหาดที่มีชื่อเรียกว่า หาดจูไมรา เราจะได้พบกับชาดหายที่มีความสวยงามติดอันดับโลก และเป็นสถานที่ตากอากาศยอดนิยมแห่งหนึ่งของชาวดูไบบริเวณชายฝั่งอ่าวเปอร์เซีย หาดจูไมราสวยงามด้วยทรายขาวละเอียด น้ำทะเลใสราวกับกระจก และเป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่เป็นศูนย์รวมของย่านที่อยู่อาศัยของบรรดามหาเศรษฐีอาหรับทั้งหลาย ที่สำคัญคือ เป็นที่ตั้งของอาคาร เบิร์จ อัล อาหรับ
แต่เบิร์จ อัล อาหรับที่ว่าหรูหราแล้วก็ยังไม่ยิ่งใหญ่เท่า เบิร์จ คาลิฟา หรือชื่อเดิมคือ เบิร์จ ดูไบ อาคารที่รั้งตำแหน่งสูงที่สุดในโลกด้วยระดับความสูง 828 เมตร มี 162 ชั้น และเป็นสิ่งก่อสร้างแห่งโลกยุคปัจจุบันนี่กำลังจะกลายมาเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของดูไบ กับรูปลักษณ์ราวแท่งผลึกของตัวอาคารที่โดดเด่นด้วยการออกแบบ ดึงดูดให้ทุกสายตาให้จับจ้องมายังอาคารหลังนี้เป็นจุดเดียว นี่คือส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาประเทศอย่างยิ่งใหญ่บนถนนชิค ซาเยดและถนนโดฮา