call center : 02-756-0335
hotline : 086-3167436

อาหารการกิน พม่า

by : Admin Angel_New   update : 3

             อาหารพม่าไม่ใช่อาหารที่ขึ้นภัตตาคารไปที่ไหนก็หาค่อนข้างยาก ฉะนั้นร้านอาหารพม่าจึงเป็นร้ายง่ายๆ แบบร้าขายข้าวแกงของเรา บางครั้งก็เป็นแผงลอยริมบาทวิถีข้างถนน ภัตตาคารต่างๆ และในโรงแรมจะบริการอาหารจีนแทบทั้งหมดทุกเมือง  ชาวพม่ากินข้าวเจ้าเป็นหลักเหมือนกับไทย กับข้าวมีไว้เพื่อช่วยให้ทานข้าวได้อร่อยคล่องคอ มื้อเที่ยงและมื้อเย็นเป็นมื้อหลัก จะประกอบด้วยแกงไก่หรือแกงปลาอย่างใดอย่างหนึ่ง ผัดผักอย่างหนึ่ง แก่งจืดอย่างหนึ่งหรือผักชุบแป้งทอด ตำปูลาจ่อ)  และที่ขาดไม่ได้เลยคือน้ำพริกพร้อมผักสดจานใหญ่ ทำมาจากปลาที่หมักทั้งตัวเรียกว่า “งาปิ๊”  บางครั้งหมักจากปลาป่น  น้ำพริกที่มีชื่อเสียงคือ น้ำพริกกุ้งเสียบ (งาปิ๊จ่อ)  น้ำพริกปลาร้าหลน (งาปิ๊เหย่โจ่) ถ้าเรียกอย่างไทย  งาปิ๊ก็คือกะปินั่นเอง


            แกงของพม่าได้รับอิทธิพลจากอินเดียและมอญแต่จะใส่เครื่องเทศน้อยกว่า จะใส่น้ำมันมากกว่าเพราะเชื่อว่ายิ่งมันจะยิ่งอร่อยแถมยังบ่งบอกฐานะของผู้กินอีกด้วย และจะเน้นใส่กระเทียมกับขิงมาก เช่น แกงสี่เบี่ยง คล้ายแกงมัสมั่นหรือแกงฮังเลของชาวเหนือในไทย ซึ่งจะเข้มข้นด้วยเครื่องแกง หวานมันด้วยกะทิ ส่วนแกงฮังเลนั้นเหมือนแกงโฮะออกรสเผ็ด ชั้กหลายชนิดเป็นส่วนผสมรวมกัน

            แกงจืดมักเป็นแกงถั่วและผัก  แกงจืดเต้าหู้กับวุ้นเส้น (บูตีฮีนคา)  รสชาติกลมกล่อมมีเผ็ดร้อนเล็กน้อย คนพม่าชอบซดน้ำแกงต่างน้ำ ระหว่างกินข้าวเขาจะไม่ดื่มน้ำเลย  ต่างกับคนไทยที่มักดื่มน้ำไปด้วยขณะกินข้าว เครื่องปรุงรสของพม่าจะใช้มะนาวหรือมะขามให้มีรสเปรี้ยว น้ำปลา (หวะปยาเหย่) ให้รสเค็ม ใช้น้ำตาล (กะจา) ให้รสหวาน แต่สิ่งที่นิยมกินกันมากคือ ผงชูรส  (พม่าเรียกว่า “อะโฉ่ ฮะโม่ง”  แปลว่าผงหวาน) เป็นเครื่องปรุงรสที่ชาวพม่าจะขาดไม่ได้เลยในการทำอาหารทุกชนิด

            ชาวพม่านิยมกินน้ำปลาจืด  (เรียกปลาว่า “งา”) เพราะอุดมสมบูรณ์อีกทั้งปลายังเป็นอาหารโปรตีนสำคัญของพม่ามาช้านานแล้ว เนื่องจากความเคร่งครัดในศีลขอ 1 ห้ามฆ่าสัตว์ในศาสนาพุทธจึงไม่ค่อยนิยม เนื้อสัตว์อื่น เช่น หมู วัว และสัตว์สี่เท้าอื่นๆ โดยทั่วไปคนพม่าจะเปิปข้าวด้วยมือ โดยใช้นิ้วมือทั้งห้า แต่ถ้าต้องร่วมโต๊ะอาหารกับแขกชาวต่างชาติก็จะใช้ช้อมส้อมแทน  โต๊ะตามบ้านจะเป็นโต๊ะกลมเตี้ยๆ นั่งกินกับพื้นหรือเสื่อ

           นอกจากนี้พม่ายังมีก๋วยเตี๋ยวยอดนิยม ที่อร่อยมีชื่อที่สุดได้แก่ “โมฮิงก่า”  หรือขนมจีนน้ำยาปลา  โรยหน้าด้วยชิ้นปลากรอบและผักชีหั่นฝอย อีกอย่างหนึ่งก็อร่อยไม่แพ้คือ “โอโนเข้าซแว”  หรือข้าวซอยไก่ใส่น้ำกะทิ (โอโน)  โรยหน้าด้วยชิ้นไก่ทอดทรงลูกเต๋าอย่างไข่ต้ม ทั้งสองอย่างนี้ชาวพม่านิยมกินกันเป็นอาหารเช้าโดยทั่วไปอย่างแพร่หลาย

           สำหรับที่มัณฑะเลย์มีก๋วยเตี๋ยวอร่อยอีกอย่างหนึ่งเรียกว่า “โมติ”  เส้นเป็นแป้งข้าวเจ้ารูปร่างกลมยาว ใส่เครื่องแกง เนื้อไก่กินแบบแห้ง โดยมีแกงจืดน้ำใสเอาไว้ซดช่วยให้คล่องคออีกถ้วยหนึ่ง



           นอกจากนี้อาหารเช้าก็ยังนิยมกินแป้งโรตีทอด แล้วราดด้วยน้ำถั่ว (แปปะลาต่า)  และของทอดอีกหลายอย่าง เช่น แปจ่อหรือถั่วทอด บาเยียหรือไบเยีย ทำจากถั่ว คนพม่าชอบกินถั่วมาก มีมากกว่า 20ชนิด นำมาประกอบอาหารได้ทั้งคาวหวาน ปาท่องโก๋  (พม่าเรียกว่า “อิ่วจาก้วย”) ก็มีขายโดยทั่วไป

            คนพม่ายังนิยมเคี้ยวหมากอยู่ (เรียกว่า “กวาน หรือ กูน”) มีขายทั่วไปตามแผงลอย ขายคำละ 3 จ๊าต  เคี้ยวกันทั้งคนหนุ่มคนแก่ และนิยมการสูบบุหรี่ (เซและ) ส่วนบุหรี่มวนโตที่ผู้หญิงพม่านิยมสูบเพราะรสเบากว่า (เรียกว่า “เซโปเละ”) จะเห็นได้ทั่วไปในรูปถ่ายผู้หญิงพม่ามักจะถือบุหรี่มวนโตนี้ด้วย

            ตามตลาดหลายแห่ง ผมเห็นร้านขายเมี่ยง (ลาพะโต๊)  อยู่หลายร้านเห็นคนพม่ามาอุดหนุนซื้อกันตลอดเวลาขายดีทีเดียว มีมะพร้าวคั่ว กุ้งหงาน พริก มะเขือเทศ งา กระเทียมทอดกรอบ  และถั่วชนิดต่างๆ ที่เอาไว้กินแกล้ม ใส่ถุงเล็กๆ เอาไว้ขาย ใบเมี่ยงจะใส่น้ำมันงาและเกลือ คลุกเคล้าพอมีรสเค็ม เวลารับประทานก็ตักใบเมี่ยงเล็กน้อยแล้วเติมกับแกล้มตามใจชอบให้ได้พอคำ แล้วค่อยๆ เคี้ยว ยิ่งเคี้ยวนานยิ่งอร่อย ใบเมี่ยงของพม่าทำมาจากใบชาหมัก  เป็นที่นิยมมากมาตั้งแต่สมัยโบราณ เป็นอาหารวัฒนธรรมประจำของพม่า (พม่าเรียกว่า เลเป็ด) คนพม่าทั้งยากดีมีจนแม้ในพระราชวังก็นิยมกินเมี่ยงกันมาก เพราะมีจานเมี่ยงที่ทำอย่างประณีตเป็นเครื่องเขินใช้กันอยู่มากมายในวัง


           เมี่ยงพม่ามีรสชาติอร่อยและช่วยกระตุ้นให้ตื่นอยู่เสมอ  คงเหมือนกินอาหารชูกำลังอะไรอย่างนั้น กินเป็นอาหารว่างได้ทุกเวลา มีขายสดๆ เป็นถุงๆ แล้วยังบรรจุขายในชะลอมเล็กๆ ที่เก็บความชื้นได้ดี  ร้านน้ำชาในพม่าเป็นที่นิยมมากของบรราดู้ชายชาวพม่า โดยเฉพาะในช่วงเช้าจะคึกคักเป็นพิเศษ ชายชาวพม่าจะนั่งล้อมโต๊ะสูงบ้างเตี้ยบ้าง ดื่มชาต้มกับนมแบบอินเดีย (ละแพยี) บางทีก็ชงใส่นมข้นหงานหรือใส่นมร้อนๆ ชานั้นเป็นที่นิยมดื่มมากกว่ากาแฟ  ลักษณะก็เหมือนบ้าน คือเป็นผงละเอียดสีออกน้ำตาลแดง ชงโดยใช้น้ำร้อนเท่านถุงผ้าที่ใส่ชาเหมือนคนจีนชงกาแฟดำ  ขายกันในบ้านเรา  แต่ต่างกันบ้างก็ตรงที่เวลาเขาดื่ม เขาจะเอาถุงใส่ชามาพักวางไว้บนฝาของกาน้ำชาใบใหญ่ จะทำให้ชาในกาอุ่นและระอุกลิ่นของชาอยู่ตลอดเวลา ทำให้รสชาติดียิ่งขึ้น

ดูเพิ่มเติม
โปรแกรมทัวร์ที่เกี่ยวข้อง
tag ที่เกี่ยวข้อง
ข้อมูลเที่ยวที่เกี่ยวข้อง
รีวิวทริป
เวลาทำการ : จันทร์ - ศุกร์ 08.30-17.30 น. เสาร์ 8.30-12.00 น.
ที่อยู่ : 18 ซ.บุญศิริ2(สขุมวิท27) ถ.สุขุมวิท ต.ปากน้ำ อ.เมือง
จ.สมุทรปราการ 10270
ใบอนุญาตินำเที่ยวเลขที่ 11/06399
DBD
เว็ปไซต์ในเครือของ Angel Star Travel
X
line @ facebook
Copyright © 2019 wowwtour.com | All Rights Reserved. | Powered by applezeed.com