call center : 02-756-0335
hotline : 086-3167436

ประวัติศาสตร์บรูไน

by : Manasya   update : 3

บรูไน ดินแดนแห่งความสงบสุข




           ประเทศบรูไน  มีชื่อเป็นทางการว่า “เนการาบรูไนดารุสซาลาม”   แปลว่า ดินแดนแห่งความสงบสุข เมืองหลวงคือ บันดาร์เสรีเบกาวัน (Bandar Seri Begawan) เมืองท่าสำคัญได้แก่ มูอาและเชรีอา
ประเทศบรูไนมีขนาดพื้นที่ 5,765 ตารางกิโลเมตร ร้อยละ 70 ของพื้นที่เป็นป่าไม้ บรูไนมีประชากร 414,000 คน (ปี 2553) จัดว่าเป็นประเทศที่มีประชากรน้อยที่สุดในอาเซียน

ธงชาติ


             ผืนธงสีเหลือง หมายถึง พระมหากษัตริย์
             สีขาวและดำ  หมายถึง มุขมนตรี (เทียบเท่าตำแหน่งนายกรัฐมนตรี)
             ธงชาติบรูไน เป็นธงสี่เหลือง มีแถบสีขาวและดำพาดทแยงมุม โดยสีขาวอยู่ด้านบน สีดำอยู่ด้านล่าง ตรงกึ่งกลางผืนธงมีภาพตราแผ่นดินของบรูไน  แต่เดิมประเทศบรูไนใช้ธงสีเหลืองล้วนๆ เป็นสัญลักษณ์ ต่อมาได้คาดแถบสีขาว-ดำ  และปรับเปลี่ยนแบบธงอีกครั้งโดยเพิ่มรูปตราแผ่นดินดังเช่นในปัจจุบัน บรูไนเริ่มมีธงชาติใช้อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2502

ดอกไม้ประจำชาติ


               ดอกไม้ประจำชาติของบรูไน คือ ดอกซิมโปร์ (Simpor) หรือที่ รู้จักในชื่อดอกส้านชวา (Shrubby Dillenia) ทางภาคใต้บ้านเรา ดอกซิมโปร์ มีกลีบดอกสีเหลืองขนาดใหญ่ เวลากลีบดอกบานออกจะดูดคล้ายร่ม ขึ้นอยู่ทั่วไปตามริมแม่น้ำของประเทศบรูไน โดยเฉพาะแม่น้ำเต็มบูรง และพบตามบึงหรือบริเวณที่มีทรายสีขาว ชาวบรูไนนิยมใช้รูปดอกไม้ชนิดนี้ตกแต่งออกแบบงานฝีมือพื้นเมือง และใส่ไว้บนธนบัตร นอกจากซิมโปร์จะเป็นไม้ดอกที่สวยงามแล้ว ส่วนต่างๆ ของต้นซิมโปร์ยังมีสรรพคุณทางยาอีกด้วย

ทำเลที่ตั้ง

              ประเทศบรูไน ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะบอร์เนียว บรูไนเป็นประเทศขนาดเล็กและมีดินแดนไม่ติดกัน จึงแยกเป็น 2 ส่วนภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นที่ราบและชายฝั่งทะเล โดยด้านทิศตะวันออกเป็นพื้นที่ชายฝั่งสูงขึ้นเป็นภูเขา และด้านทิศตะวันตกเป็นเนินเขาต่ำ ประชากรร้อยละ 97 อาศัยอยู่ทางด้านตะวันตก เพราะด้านตะวันออกมีภูเขาสูงเป็นจำนวนมาก

**รู้หรือไม่**
              เกาะเบอร์เนียว (Borneo) เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก ซึ่งมีประเทศอยู่ 3 ประเทศคือ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และบรูไนแต่ก่อนพื้นที่บนเกาะนี้ส่วนใหญ่เคยเป็นของบรูไน ต่อมาชื่อเรียกก็เพี้ยนจากบรูไนมาจากบอร์เนียว

เทือกเขาและแม่น้ำ

  
            บรูไนมีภูเขาและป่าไม้มากมาย  เทือกเขาที่สูงที่สุดในประเทศคือเทือกเขาบูกิตปากอง อยู่ในเขตเต็มบูรง ติดกับพรมแดนมาเลเซีย ยอดเขาที่สูงสุดถึง 1,850 เมตรจากพื้นดิน  แม่น้ำที่สำคัญ ได้แก่ แม่น้ำบรูไน แม่น้ำเบไลต์ แม่น้ำแพนดารัน แม่น้ำเต็มบูรง แม่ต้ำตูตง พื้นที่ร้อยละ 70 ของประเทศบรูไนเป็นผืนป่า บรูไนจึงยังอุดมสมบูรณ์ด้วยป่าไม้และแร่ธาตุ มีพื้นดินที่เหมาะแก่การเพาะปลูก สัตว์น้ำในน่านน้ำก็ยังอุดมสมบูรณ์เช่นกัน  การสำรวจพบแหล่งน้ำมันในบรูไนเมื่อปี พ.ศ. 2422 (ค.ศ. 1879) ทำให้บรูไนร่ำรวย ด้วยน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ จึงเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่เป็นอันดับ 3 ของภูมิภาค อาเซียน และเป็นผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติเป็นอันดับ 4 ของโลก ซึ่งทรัพยากรน้ำมันและก๊าซธรมชาติถือเป็นรายได้หลักของประเทศ บนเกาะเบอร์เนียมีสัตว์เฉพาะถิ่นที่หาดูที่อื่นไม่ได้ นั่นก็คือ ลิงจมูกยาว 

ประวัติศาสตร์

             ในอดีตบรูไนมีกำลังอำนาจมาก มีสุลต่านเป็นผู้ปกครองรัฐ ซึ่งมีอาณาเขตครองครองพื้นที่ส่วนใหญ่ของเกาะบอร์เนียวและส่วนหนึ่งของหมู่เกาะซุลู (Sulu) เมื่อเริ่มมีชาวยุโรป เดินเรือมาค้าขาย บรูไนก็เฟื่องฟูทางการค้า สินค้าส่งออกที่สำคัญในสมัยนั้น คือ การบูร พริกไทย และทองคำ

              หลังจากนั้น บรูไนก็ค่อยๆ เสียดินแดนในยุโรป รัฐเริ่มเสื่อมอำนาจลงต่อมาเซอร์เจมส์ บรุก (James Brooke) ชาวอังกฤษ เดินทางมาและได้ยื่นข้อเสนอช่วยปราบปรามโจรสลัด สุลต่านจึงยกดินแดนบางส่วนให้ แล้วอังกฤษก็เริ่มมีอำนาจการปกครองมากขึ้นเรื่อยๆ จนบรูไนได้ลงนามในสนธสัญญายินยอมเป็นรัฐในอารักขาของอังกฤษอย่างสมบูรณ์ในปี พ.ศ 2449 ทำให้อังกฤษมีอำนาจ การปรกครองอย่างเต็มที่เป็นเวลา 95 ปี จนกระทั่งได้รับเอกราชจากอังกฤษเมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2527

การเมืองการปกครอง

               ประเทศบรูไนมีรูปแบบการปกครอง แบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ประมุขผู้นำรัฐบาลคนปัจจุบันคือ สมเด็จพระราชาธิบดีฮัจญี ฮัสชานัล โบลเกียห์ มูอิซซัดดิน วัดเดาละห์ (His Majesty Sultan Haji Hassanai Blokiah Mu’izzaddin Waddaulah) สมเด็จพระราชาธิบดีองค์ที่ 29 โดยทรงเป็นองค์พระประมุขของประเทศตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม 2510 จนถึงปัจจุบัน
วันสำคัญแห่งชาติของบรูไน
              •   วันชาติ คือวันที่ 23 กุมภาพันธ์
              •  วันประกาศอิสรภาพ คือ วันที่ 1 มกราคม 2527
              •  วันคล้ายวันประสูติสมเด็จพระราชาธิบดี ตรงกับวันที่ 15 กรกฏาคม 

อำนาจปกครอง

              อำนาจการปกครองสูงสุดในบรูไนนั้นเป็นของสุลต่าน ตามรัฐธรรมนูญของประเทศบรูไน (ฉบับปี พ.ศ.2527) ที่กำหนดให้สุลต่านเป็น อธิปัตย์ คือ เป็นทั้งประมุขและนายกรัฐมนตรี โดยมีเกณฑ์ว่า ผู้เป็นนายกรัฐมนตรีจะต้องเป็นชาวบรูไนในเชื้อสายมาเลย์โดยกำเนิดและต้องนับถือศาสนาอิสลามนิกายชุนหนี่

              ปัจจุบันนอกจากสมเด็จพระราชาธิบดีจะทรงเป็นประมุขของประเทศและนายกรัฐมนตรีแล้ว ยังดำรงตำแหน่งทางกาเมืองอื่นๆ ด้วย ได้แก่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและกระทรวงการคลัง  ทางด้านการบริหารประเทศ รัฐบาลบรูไนให้ความสำคัญกับประชาชนเป็นอย่างยิ่ง เช่น เมื่อปี พ.ศ. 2548 สมเด็จพระราชาธิบดีเปิดโอกาสให้นักธุรกิจที่ไม่ใช่มุสลิม แต่มีความสามารถ เข้ามาเป็นคณะรัฐมนตรีเป็นครั้งแรก เพื่อต้องการพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้า

              นอกจากนี้บรูไนยังมีระบบ รัฐสวัสดิการ ที่มีประสิทธิภาพ คือรัฐให้บิการประชาชนโดยไม่เก็บค่าเล่าเรียน เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ไม่ต้องเสียค่ารักษาพยาบาล รวมทั้งสนับสนุนให้ทุกคนที่มีอยู่อาศัยเป็นของตนเอง
              ** ประเทศที่มีระบบรัฐสวัสดิการจะใช้ระบบการเก็บภาษี** แบบก้าวหน้านั่นคือ รัฐบาลจะเก็บภาษีจากคนรวยเป็นจำนวนมากกว่าคนจนมาก ส่วนคนที่มีฐานะไม่ดีก็จะเก็บในอัตราน้อยหรือไม่เรียกเก็บเลย ส่วนคนที่มีฐานะไม่ดีก็จะเก็บในอัตราน้อยหรือไม่เรียกเก็บเลย ซึ่งรัฐจะนำเงินภาษีที่เก็บได้นี้มาใช้จ่ายให้บริการทางสังคมแก่ประชาชน

พรรคการเมืองสำคัญ


               บรูไนมีมีการเลือกตั้งมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2505 เนื่องจากมีการพยายามยึดอำนาจสุลต่าน เมื่อรัฐบาลมีมาตรการควบคุม พรรคการเมืองจึงมีความสำคัญน้อยลงในเวลาต่อมา ปัจจุบันพรรคการเมืองที่ถูกต้องตามกฏหมายที่อยู่พรรคเดียวคือ พรรคสามัคคีแห่งชาติบรูไน จดทะเบียนเป็นพรรคการเมืองพรรคแรกตั้งแต่บรูไนได้รับเอกราชมีนโยบายเน้นสนับสนุนการมีรัฐบาลที่เป็นตัวแทนของประชาชน  มีเสรีภาพในการออกความเห็น การกระจายรายได้ที่เท่าเทียงและเป็นธรรม

               บรูไนใช้หลักกฎหมายอังกฤษ ซึ่งเป็นกฎหมายที่ยึดคำตัดสินของศาล มักใช้ในประเทศที่เคยเป็นอาณานิคมของอังกฤษมาก่อน นอกจากนี้ยังเป็นกฎหมายอิสลาม

ทำมาค้าขาย


               ชาวบรูไนนิยมทำงานราชการหรือทำงานในบริษัทใหญ่ๆ และเนื่องจากการเป็นปะเทศเล็กๆ ที่มีจำนวนคนอาศัยอยู่น้อย บรูไนจึงมีปัญหาขาดแคลน แรงงานและช่างฝีมือ จึงรับจ้างแรงงานจากต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย หรือคนไทย  เข้าไปทำงานในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น ตัดเย็บเสื้อผ้า ก่อสร้าง
              ส่วนรายได้ของประเทศนั้น แม้วาปัจจุบันจะพยายามเพิ่มช่องทางการหารายได้เข้าประเทศให้หลายหลายมากขึ้น แต่รายได้หลักก็ยังคงมาจากน้ำมันและก๊าซธรรมชาติเป็นจำนวนราวร้อยละ 90 บรูไนจึงต้องมีหน่วยงานกำหนดนโยบายน้ำมันและก๊าซของประเทศ คือ บริษัทปิโตรเลียมแห่งชาติ 
              นอกจากอุตสาหกรรมปิโตรเลียมแล้ว บรูไนยังมีอุสาหกรรมการผลิตเสื้อผ้าเพื่อส่งออกไปประเทศในกลุ่มยุโรปและสหรัฐอเมริกา อีกทั้งยังผลักดันอุตสาหกรรมอาหารฮาลาลกับการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ในประเทศ โดยมีจุดขายอยู่ที่การเป็นประเทศที่มีความสงบและปลอดภัย

สินค้าส่งออกที่สำคัญ

             • น้ำมันดิบ
             • ก๊าซธรรมชาติ
             • ปิโตรเลียมกลั่น
             • เสื้อผ้า

สินค้านำเข้าที่สำคัญ

             • เครื่องจักรอุตสาหกรรม
ดูเพิ่มเติม
โปรแกรมทัวร์ที่เกี่ยวข้อง
เวลาทำการ : จันทร์ - ศุกร์ 08.30-17.30 น. เสาร์ 8.30-12.00 น.
ที่อยู่ : 18 ซ.บุญศิริ2(สขุมวิท27) ถ.สุขุมวิท ต.ปากน้ำ อ.เมือง
จ.สมุทรปราการ 10270
ใบอนุญาตินำเที่ยวเลขที่ 11/06399
DBD
เว็ปไซต์ในเครือของ Angel Star Travel
X
line @ facebook
Copyright © 2019 wowwtour.com | All Rights Reserved. | Powered by applezeed.com